พิธีสาบานตนขึ้นเป็น ประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐอเมริกา มีขึ้นบริเวณสนามหญ้าด้านตะวันตกของอาคารรัฐสภา เมื่อหลังเที่ยงวันของวันที่ 20 มกราคม (เวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ซึ่งตรงกับหลังเที่ยงคืนของประเทศไทย) ท่ามกลางฝูงชนที่เข้ามาเป็นสักขีพยานมากกว่า 2 ล้านคน โดย นายบารัค โอบามา สาบานตนด้วยการวางมือไว้บนคัมภีร์ไบเบิลซึ่งเคยถูกใช้ในพิธีสาบานตนของอดีต ประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น วีรบุรุษในดวงใจของ โอบามา เมื่อปี 1861
“ข้าพเจ้าให้สัตย์ปฏิญาณว่า จะทำหน้าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาด้วยศรัทธาและความซื่อตรงที่สุดเท่า ที่จะสามารถทำได้ จะรักษาปกป้อง และต่อสู้เพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา ขอพระเจ้าทรงโปรดประทานพร” หลังกล่าวจบ มีเสียงโห่ร้องกึกก้องจากฝูงชนพร้อมกับยิงปืนสลุต 21 นัด
หลังจากนั้น นายโอบมาได้กล่าวสุนทรพจน์ตอนนี้มีสาระสำคัญว่า “เราได้เลือกความหวังเหนือความกลัว ผลประโยชน์ของความสามัคคีอยู่เหนือความขัดแย้งและความบาดหมาง” ซึ่งประโยคนี้ ทำให้ประชาชนกว่า 2 ล้านคน ณ เนชันแนลมอลล์ มีน้ำตาไหลออกมาความตื้นตัน
“เริ่มต้นวันนี้ เราต้องลุกขึ้น สะบัดฝุ่นออกและเริ่มต้นสร้างอเมริกาใหม่อีกครั้ง วิกฤตทางเศรษฐกิจครั้งนี้ เป็นครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจเมื่อช่วงต้น 1930 อเมริกันจะผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้ และยังเชื่อว่า สหรัฐอเมริกาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน จะสามารถก้าวผ่านสิ่งท้าทายต่าง ๆ ไปได้”
“อเมริกาเป็นเพื่อนของทุกชาติและทุกคน ทั้งบุรุษ สตรีและเด็กซึ่งกำลังมองหาอนาคตแห่งสันติภาพและเกียรติภูมิ และเราพร้อมจะนำหน้าอีกครั้งหนึ่ง ถึงโลกมุสลิม เรามองหาแนวทางก้าวไปข้างหน้าใหม่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันและความ เคารพซึ่งกันและกัน สำหรับ”การก่อการร้าย” และฆ่าล้างทำลายผู้บริสุทธิ์ในความพยายามคุกคามสหรัฐอเมริกาจะต้องเผชิญการ ตอบโต้อย่างไม่ประนีประนอม”
ก่อนหน้านี้ เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันที่ 20 มกราคม ว่า นายบารัค โอบามา อดีตวุฒิสมาชิกจากรัฐอิลลินอยส์วัย 47 ปี สาบานตนเพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ต่อ นาย จอห์น จี. โรเบิร์ต ผู้พิพากษาศาลสูงสุดแห่งสหรัฐอเมริกา ที่บริเวณบันไดด้านหน้าอาคารรัฐสภา สถานที่ประกอบพิธี ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติ ศาสตร์การประกอบพิธีสาบานตน ในขณะที่ฝูงชนหลั่งไหลเข้าร่วมพิธีและเฉลิมฉลองแน่นขนัด คาดเกิน 2 ล้านคน
เอเอฟพีระบุว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยในกรุงวอชิงตัน ดีซี. เริ่มเข้มงวดตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม มีตั้งแต่การลาดตระเวนทางอากาศด้วยเฮลิคอปเตอร์ของทหารและตำรวจอย่างสม่ำ เสมอ การปิดถนนหลายสายอนุญาตให้เฉพาะรถของทางการผ่านเข้าออก การวางแนวรั้วเหล็กกั้นเส้นทางขบวนพาเหรดหลังพิธี นอกเหนือจากนั้นยังมีการส่งหน่วยแม่นปืนประจำจุดล่อแหลมและวางกำลังเพื่อ ตรวจตรามวลชนอย่างเข้มงวดอีกด้วย ในขณะที่นายโอบามา จำเป็นต้องใช้รถประจำตัวคันใหม่ของบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ ที่ผลิตพิเศษตัวถังเป็นเหล็กหนากันกระสุนและระเบิด และใช้กระจกกันกระสุนรอบคันพร้อมระบบสื่อสารไร้สายและตัวอย่างเลือดของนายโอ บามา 1 ขวดสำหรับกรณีฉุกเฉิน
โฆษกศูนย์ข่าวสารร่วมของสำนักงานอารักขาบุคคลสำคัญ เปิดเผยว่าการดำเนินการด้านนี้เป็นไปตามแผนทุกอย่าง พื้นที่บริเวณใจกลางเมืองหลวงซึ่งจะใช้เป็นพื้นที่ประกอบพิธีเงียบสงัดในตอน ดึกก่อนหน้าวันประกอบพิธีเล็กน้อย ทั้งนี้ถึงเวลา 02.30 น. สะพานข้ามจากรัฐเวอร์จิเนียเข้ามายังกรุงวอชิงตันก็ปิดการจราจรลงทั้งหมด ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในพิธีครั้งไหนๆ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า เป็นเพราะเป็นพิธีสาบานตนครั้งแรกหลังเหตุการณ์วินาศกรรมวันที่ 11 กันยายนและเป็นการสาบานตนของประธานาธิบดีแอฟริกันอเมริกันคนแรก นอกเหนือจากจำนวนผู้คนในเมืองหลวงจะมากมายมหาศาลชนิดไม่เคยปรากฎมาก่อนอีก ด้วย
การอำนวยการรักษาความปลอดภัยในพิธีสาบานตนครั้งนี้ใช้เจ้าหน้าที่ทหาร ประจำการและกองหนุนรักษาดินแดนมากถึง 12,500 คนทำหน้าที่เสริมจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปกติที่มีจำนวนหลายพันคน เสริมด้วยกำลังของหน่วยงานด้านความมั่นคงอีก 99 หน่วยจากทั่วประเทศ นอกเหนือจากการลาดตระเวนทางอากาศแล้วยังมีเรือติดอาวุธลาดตระเวนตามลำน้ำโป โตแมค มีหน่วยประเมินและรับมือภัยคุกคามจากอาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพ เมื่อถึงกำหนดเวลา เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาลับที่เป็นหน่วยแม่นปืนเข้าประจำตามที่ตั้งบนหลังคา อาคารของรัฐ โรงแรม พิพิธภัณฑ์ และอื่นๆ อีกด้วย ประชาชนที่เดินทางเข้าสู่พื้นที่ประกอบพิธีต้องผ่านการตรวจตราอย่างเข้มงวด นอกเหนือจากอาวุธทุกชนิดแล้วยังมีการห้ามนำเป้, ร่ม, ป้ายข้อความ, ถังคูลเลอร์, สัตว์เลี้ยง, กระป๋องก๊าซทุกชนิด และ จักรยาน เข้าไปโดยเด็ดขาด
พิธีการสาบานตนเริ่มต้นเมื่อเวลา 09.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น (21.30 น.เวลาไทย) เมื่อนายโอบามาพร้อมนางมิเชล ภริยาเดินทางถึงทำเนียบขาว ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุชให้การต้อนรับชั่วขณะหนึ่ง หลังจากนั้นนำนายโอบามา เดินทางสู่อาคารรัฐสภาเพื่อประกอบพิธี โดยผู้พิพากษา จอห์น จี. โรเบิร์ตส์ เป็นประธานในพิธี รับคำสาบานจากนาย โจ ไบเดน รองประธานาธิบดีเป็นลำดับแรกเมื่อเวลา 11.46 น. หลังจากนั้น นายโอบามา ขึ้นสาบานตน ด้วยการยกมือขวาขึ้นและวางมือซ้ายลงบนพระคัมภีร์ไบเบิล กล่าวคำสาบานตน ต่อด้วยการกล่าวสุนทรพจน์รับตำแหน่งต่อประชาชนทั้งชาติ พิธีการส่วนนี้สิ้นสุดเมื่อนายโอบามา ร่วมเดินนำนายบุชขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่รอรับ เพื่อนำส่งอดีตผู้นำกลับบ้านไร่ที่รัฐเท็กซัส เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารเที่ยงที่อาคารรัฐสภา ก่อนร่วมในขบวนพาเหรดแห่แหนตามเส้นทางถนนเพนซิลเวเนีย เอฟเวนิวไปยังทำเนียบขาว
ส่วนการเฉลิมฉลองนั้นทางการจัดให้มีขึ้นโดยรอบบริเวณทำเนียบประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกาเป็นงานราตรีสโมสรรวม 10 งาน เริ่มเมื่อเวลา 19.00 น. ทั้งนี้ผู้นำใหม่กำหนดจะปรากฎตัวในทุกงานที่มีขึ้นดังกล่าวนี้ด้วย
ทั้งนี้ นายโรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะถูกเก็บตัวไว้ในสถานที่ลับ เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้สืบทอดอำนาจแทน ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันระดับหายนะภัยขึ้นกับประธานาธิบดีและรอง ประธานาธิบดีทั้งเก่าและใหม่ในระหว่างพิธีการทั้งหมด ทำให้นายเกตส์ชวดการเข้าร่วมในพิธีการครั้งนี้ไปโดยปริยาย
ก่อนหน้าเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งครั้งนี้ นายโอบามา ใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงก่อนหน้าพิธีไปเยือนทหารผ่านศึกผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลวอเตอร์ รีด เยือนบ้านพักฉุกเฉินสำหรับเยาวชนที่มีปัญหาและโรงเรียนมัธยมอีกแห่ง เพื่อร่วมจัดเตรียมห่อของขวัญที่จะจัดส่งไปให้ทหารอเมริกันที่ทำหน้าที่อยู่ ในต่างแดน ที่บ้านพักฉุกเฉินนายโอบามาลงทุนพักแขนเสื้อเชิ้ตขาวทาสีบ้านพักด้วยตัวเอง เพื่อเป็นตัวอย่างในการเรียกร้องให้ชาวอเมริกันร่วมอุทิศตนเสียสละเพื่อ สังคมมากขึ้น
นายโอบามายังกล่าวยกย่อง สาธุคุณ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ นักต่อสู้เพื่อความเสมอภาคของสีผิวและเชื้อชาติผู้ถูกลอบสังหารเสียชีวิตไป ก่อนหน้านี้ ในขณะที่เรียกร้องให้ชาวอเมริกันทั้งมวล ทุกสีผิวรวมตัวกันเป็นหนึ่งเพื่อก้าวไปข้างหน้าร่วมกันและรักษาคำมั่นสัญญา ที่ให้ไว้ต่อประเทศนี้ สืบทอดบทเรียนจากสาธุคุณคิง สานฝันของทุกคนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและให้เป็นความจริงให้ได้ในที่สุด
เอเอฟพีรายงานด้วยว่า โทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดระบุว่า เกือบ 7 ใน 10 คนของชาวอเมริกันเชื่อว่า ความฝันของ สาธุคุณคิง ที่จะได้เห็นความเสมอภาคทางเชื้อชาติในสหรัฐอเมริกาจะเป็นจริง หลังจากนายโอบามาได้รับเลือกตั้ง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชสาส์นถึงประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ อเมริกาว่า ในโอกาสที่ท่านเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ข้าพเจ้ามีความยินดีขอส่งคำอำนวยพรและความปรารถนาดีอย่างจริงใจมา เพื่อท่านประธานาธิบดีประสบความสำเร็จและความสุขสวัสดิ์ ทั้งเพื่อความเจริญก้าวหน้าของประชาชนและความรุ่งเรืองไพบูลย์ยิ่งขึ้นของ สหรัฐอเมริกา
ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมืออันใกล้ชิดระหว่างประเทศและประชาชนของเรา ทั้งสองจะกระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไปในภายภาคหน้า
นายชัยชนะ อิงควัต อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้สัมภาษณ์สถานีข่าวทีเอ็นเอ็น ถึงพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 44 ของ นายบารัค โอบามา ว่า สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีโอบามา มีนัยสำคัญ คือ เป็นการเตือนสติคนอเมริกันให้ลุกขึ้นมาช่วยกันสร้างประเทศ คล้ายกับสมัยของประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี ที่พยายามจะปลุกกระแสให้คนอเมริกันลุกขึ้นมาช่วยกันสร้างชาติ ขณะเดียวกัน วลีที่ว่า “อเมริกาจะก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความรับผิดชอบ” ยังเป็นการเตือนสติบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้น
“ถ้าเป็นข้อสอบต้องให้ เอบวก” อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง กล่าว และว่า สุนทรพจน์ดังกล่าวมีจุดเด่น 3 ข้อ คือ 1. ภาษาดี 2. สะท้อนภาพปัญหาของสหรัฐฯในรอบหลายปีที่ผ่านมา และ 3. ปลุกคนอเมริกันให้คิดถึงอนาคตข้างหน้าของประเทศ ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีการเตรียมสคริปต์สุนทรพจน์มาเป็นอย่างดี แต่เมื่อต้องกล่าวจริง นายโอบามาก็ไม่ได้ดูสคริปต์มากสักเท่าใด เป็นการพูดด้วยใจ ซึ่งสิ่งที่เขาพูดตรงประเด็น เหมือนเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า บทบาทที่ผิดพลาดของสหรัฐฯ ในสมัยประธานาธิบดีบุช แก้ไขไม่ได้ แต่จะมองไปข้างหน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น