วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

"เบเบ้"ธันย์ชนก ฤทธินาคา เตรียมออมเงินเปิดร.ร.สอนเต้นรำ



“ปัจจุบันเบ เบ้เรืยนอยู่ที่คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัชสัมชัญ ชั้นปี 3 และจากการเรียนด้านบริหารมา ทำให้เรามีการบริหารจัดการรายได้ที่เข้ามาอย่างเป็นระบบ โดยจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งเป็นค่าเล่าเรียนเก็บไว้เป็นสัดส่วนโดยที่ไม่ยุ่ง เก็บกับบัญชีไหน ส่วนอีกบัญชีหนึ่งจะเก็บไว้ในบัญชีแบบฝากประจำ ซึ่งบัญชีนี้จะเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉินจริง ๆ และอีกบัญชีหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ใช้ในแต่ละเดือน"


สาวน้อยหน้าใส ตาคมนามว่า "เบเบ้ - ธันย์ชนก ฤทธินาคา" ลูกหม้อแห่งช่อง 7 สี อีกราย ที่วันนี้เธอจะมาเผยเคล็ดลับในเรื่องการออมเงินกับภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ในปัจจุบัน ว่าเราควรมีวิธีการจัดสรรอย่างไรบ้าง รวมถึงแนวทางการวางแผนอนาคตว่าเธออยากทำธุรกิจแบบไหนหลังจากเรียนจบ ผ่านทางคอลัมน์"เจาะพอร์ตคนดัง" ซึ่งถ้าใครอ่านแล้วสนใจอยากจะนำไปใช้บ้างก็ไม่ว่ากัน

"เบเบ้"บอก ว่า ภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ต้องระมัดระวังการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน ถึงแม้ว่าส่วนตัวแล้วจะเป็นคนที่ค่อนข้างใช้จ่ายอย่างประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย แล้วก็ตาม เพราะคุณแม่จะสอนอยู่เสมอตั้งแต่ เด็กมาจนถึงปัจจุบันว่า เงินทองนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญใช้จ่ายต้องรู้คุณค่า ไม่ควรสุรุ่ยสุร่าย ซึ่งจากคำสอนตรงนี้มันก็ซึมซับมากจนถึงทุกวันนี้เวลาที่จะซื้อของอะไรก็ตาม ต้องคิดก่อนเสมอว่ามันมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน

พอเริ่มมีรายได้เป็นของตนเอง เบเบ้ ก็ยิ่งต้องรู้จักใช้เงินมากขึ้น เพราะด้วยความที่เราทำงานมาตั้งแต่อายุ 12 ปี จากการถ่ายโฆษณาชิ้นแรก ทำให้เรารู้ว่ากว่าจะได้สตางค์มานั้น มันเหนื่อยยากอย่างไร ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดี ที่ทำให้รู้ค่าของเงินตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ ต่างจากคนอื่น ๆ ที่ช่วงอายุเท่าเรา เขาก็เรียนหนังสือเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย นอกจากการเรียนทำให้บางคนไม่รู้จักค่าของเงินด้วยซ้ำไป

ปัจจุบัน เบเบ้ ยังมีงานในวงการบันเทิงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด มีผลงานละครทางช่อง 7 สี เป็นละครซิทคอมเรื่อง“รักอยู่หมัด” ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 11.00 น. และอีกเรื่องที่กำลังถ่ายทำอยู่เป็นละครเรื่อง “แม่หญิง” ซึ่งออกอากาศทางช่อง 7 สีเช่นกัน โดยแสดงร่วมกับนางเอกแถวหน้าอย่าง นุ่น – วรนุช วงษ์สวรรค์ เป็นละครแนวย้อนยุคที่จะออกอากาศหลังข่าว นอกจากงานละครแล้ว เบเบ้ยังเป็นพิธีกรรายการ “แซทโซนมันส์มันเสาร์” ออกอากาศหลังรายการบิ๊กซีนิม่า

เบเบ้ บอกว่า "การ ทำงานในวงการบันเทิงทำให้เรามีรายได้มากกว่างานอาชีพอื่น แต่ความมั่นคงในอาชีพนั้นหาแทบไม่ได้เลย ดังนั้นเราต้องรู้จักเก็บรู้จักออม เพื่อเก็บไว้ใช้ในอนาคต หลังจากที่เราไม่มีงานในวงการบันเทิงทำแล้ว หรืออยากที่จะทำธุรกิจส่วนอะไรก็สามารถนำเงินที่เก็บสะสมไว้ออกมาใช้ได้ ทันที"

นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ทิ้งการเรียน...ปัจจุบัน เบเบ้ เรียนอยู่ที่คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัชสัมชัญ (เอแบค) ชั้นปี 3 และจากการที่เรียนด้านบริหารมา ทำให้เรามีการบริหารจัดการรายได้ที่เข้ามาอย่างเป็นระบบ โดยจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งเป็นค่าเล่าเรียนเก็บไว้เป็นสัดส่วนโดยที่ไม่ยุ่ง เก็บกับบัญชีไหนเลย ส่วนอีกบัญชีหนึ่งจะเก็บไว้ในบัญชีแบบฝากประจำ ซึ่งบัญชีนี้จะเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉินจริง ๆ และอีกบัญชีหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ใช้ในแต่ละเดือน

ในอนาคตหลังจากเรียนจบแล้ว เบ เบ้ ฝันไว้ว่า อยากทำธุรกิจส่วนตัวด้วยการเป็นโรงเรียนสอนเต้นรำ หรือสอนดนตรี** เพราะปัจจุบันพี่สาวเป็นครูสอนเต้นรำอยู่ด้วย และเราก็ชอบมาตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งคิดว่าเป็นสิ่งที่ถนัดและก็ชอบมาก น่าจะทำได้เป็นอย่างดี เพราะการจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม เราต้องรู้จริงและชอบถึงจะทำได้ดี นอกจากนี้ เบเบ้ ยังอยากที่จะทำธุรกิจที่เกี่ยวกับครีมบำรุงผิวด้วย เพราะเป็นคนชอบทาครีม ชอบดูแลผิวพรรณ และคิดว่าน่าจะเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่จะทำได้เป็นอย่างดี

เบเบ้ บอกเพิ่มเติมว่า ผ่าน งานในวงการบันเทิงมาพอสมควรไม่ว่าจะเป็นงานเพลง เดินแบบ ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา หรือแม้แต่กระทั่งเล่นละคร ล้วนแล้วแต่ให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ซึ่ง ในส่วนของงานถ่ายโฆษณาจะได้ในเรื่องของความอดทนที่ต้องอดทนถ่ายในฉากหรือซีน ที่ซ้ำ ๆ กันเพื่อให้ได้ฉากที่ดีที่สุด ส่วนงานละครเป็นการฝึกทักษะในด้านการแสดงในแต่ละบทบาท ซึ่งถือว่าเป็น ความท้าทายอย่างหนึ่งกับตัวเราเองด้วยว่าเราจะสามารถเล่นได้มั้ย โดยต้องมีการฝึกฝนให้เข้าถึงบทตัวละครนั้น ๆ ให้มากที่สุดด้วย

ในส่วนของหลักและแนวคิดในการทำงานที่ เบเบ้ ยึดติดมาเสมอนั้นคือ การเป็นคนตรงต่อเวลา เพราะงานในวงการบันเทิง หรือไม่ว่าจะงานอะไรหรืออาชีพไหนก็ตาม ล้วนแล้วต้องทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เราต้องไปให้ตรงต่อเวลาไม่ให้คนอื่นต้องเป็นภาระ และที่สำคัญที่สุดต้องตั้งใจทำงานที่เราได้รับมอบหมายจากทางผู้ใหญ่ให้ดีด้วย เพราะท่านได้ให้ความไว้วางใจให้เราได้ทำงานซึ่งเราต้องตั้งใจทำมาก ๆ เพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด หรือไม่ผิดพลาดเลยได้จะยิ่งดี เพราะมันจะบ่งบอกถึงการเตรียมตัวในเรื่องของความพร้อมนั่นเอง

สำหรับในเรื่องของการแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะมาจากเรื่องเรียนหรือจากการ ทำงาน เบเบ้ จะมีวิธีแก้ไขด้วยการดูถึงเหตุผลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มากกว่าที่จะแก้ด้วยอารมณ์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าบางครั้งคนเราก็ต้องมีการใช้อารมณ์บ้าง แต่เบเบ้จะเตือนสติตัวเองอยู่ตลอดเวลาให้มีสติ มีสมาธิในการแก้ไขปัญหาและปัญหานั้น ๆ ก็จะเบาบางลงไปได้

สุดท้าย เบเบ้ ฝากเตือนว่า ใน ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้มีความเสี่ยงและอันตรายพอสมควรกับคนที่กำลังใช้จ่าย ฟุ่มเฟือย ไม่รู้จักประหยัด ดังนั้น อยากเตือนให้ทุกคนรู้จักที่จะออมตั้งแต่วันนี้ และรู้จักใช้สตางค์ให้เกิดคุณค่ามากที่สุด เมื่อคิดจะซื้ออะไรสักชิ้นหนึ่งควรคิดถึงความสำคัญที่จะนำมาใช้ด้วยว่ามัน คุ้มค่ามากน้อยเพียงไร ถ้าซื้อมาแล้วไม่ได้เกิดประโยชน์ใช้ได้เพียงครั้งเดียวก็ไม่สมควรที่จะ ตัดสินใจซื้อลงไป ไม่ว่าใครก็ตามจะมีเงินมากจนเหลือใช้ก็ตาม แต่ควรที่จะรู้จักใช้จ่ายให้เป็น ให้รู้คุณค่าของเงินที่จ่ายออกไป เพราะการเก็บเงินไว้ใช้ในอนาคตจะสร้างความมั่นคงได้ด้วย

ชื่อ – นามสกุล ธันย์ชนก ฤทธินาคา (เบเบ้)
วันดือนปีเกิด 21 ธันวาคม 2530
การศึกษา ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยอัชสัมชัญ คณะบริหารธุรกิจ
ผลงานปัจจุบัน ละครซิทคอทเรื่อง "รักอยุ่หมัด"
ละครที่กำลังถ่ายทำ "แม่หญิง"
พิธีกรรายการ "แซทโฟนมันส์มันเสาร์"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น